อยู่ ม.ต้น จะบอกพ่อแม่ยังไง...ว่ามีแฟนแล้ว?
หลายๆ คนมีที่เคยมีแฟนในวัยเรียนมาแล้ว วิธีบอกพ่อแม่ยังไง ว่ามีแฟนแล้ว จะเริ่มต้นยังไงดี หากพ่อกับแม่ไม่เห็นด้วย เราจะหาทางออกยังไงดี...ตอนนี้อยู่ ม.2 อายุ 14
ตอนนี้มีคนที่เราสนิทด้วยมากเป็นพิเศษ เราสองคนเข้ากันได้ดี มีความรู้สึกดีๆต่อกัน
เล่าถึงลักษณะของแฟนเรา ข้อดี สิ่งที่น่าประทับใจ พ่อแม่เราจะได้รู้สึกดีด้วย
บอกว่าเราจะหาโอกาสพาแฟนมารู้จัก พ่อแม่เราจะได้ดีใจที่คบกันแบบเปิดเผย
เรามีแฟนคนแรกตอนเข้ามหาลัย ตอนนั้นก็ไม่กล้าบอกที่บ้านเหมือนกันค่ะ
จนแม่ถามว่ามีแฟนรึยัง (สงสัยจากหวงลูกสาวกลายเป็นห่วงว่าขายไม่ออก)
เราเลยตอบแม่ว่ามีแล้ว แต่เรียกว่าเป็นเพื่อนชายคนสนิทดีกว่าค่ะ ค่อยๆเรียนรู้กันไปแล้วก็ช่วยกันเรียนช่วยกันติวหนังสือ
ตอบแบบดารามาก 555 แม่ก็ดูจะสบายใจกับคำตอบนะ คงเพราะรู้สึกว่าเราไม่ได้ผลงผู้ชายหัวปักหัวปำไม่เป็นอันเรียน
บอกไปว่า กำลังคุยๆกันอยู่ค่ะ หลังจากนั้นพ่อกับแม่ จะเป็นฝ่ายถามเราเอง...
แต่เราเองก็ต้องดูๆ นิสัยใจคอเค้ามาระดับนึงด้วยนะคะ จะได้ให้พ่อกับแม่ช่วยๆดูไปด้วยพร้อมๆกับเรา
พ่อแม่จะเปนทั้งพ่อแม่ และเพื่อนเราได้ดีที่สุดค่ะ
(ประสบการณ์ตรง)
บอกเค้าไปเลยว่ามีแฟนแล้ว ถ้าพ่อแม่ดุ ก็ลองพูดถึงแฟนบ่อยๆ เช่น วันนี้(ชื่อแฟน) ซื้อนั่นให้ด้วย เมื่อวาน(ชื่อแฟน)พาไปกินข้าว บลาๆๆๆ คือไม่ต้องบอกว่านี่แฟนหนูนะ แค่พูดถึงบ่อยๆอ่ะ เดี๋ยวพ่อแม่จะเก็ทเองว่านี่คือแฟนเรา เค้าอาจจะถามว่าแฟนเป็นคนที่ไหน พ่อแม่เป็นใคร วัยเรียนก็เรียนที่ไหน อายุห่างเราเท่าไหร่ เขาเป็นคนน่าไว้ใจมั้ย บลาๆๆ ก็ตอบตามความเป็นจริงเถอะ
บอกไปเถอะรุ่นพ่อรุ่นแม่บางทีเขาไวไฟกว่าเราอีก
เขาผ่านโลกมาเยอะเรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อย...
อยากให้พ่อแม่รู้ก็เอ่ยชื่อบ่อยๆ เดี๊ยวเขาก็รู้เอง แต่เชื่อว่าน่าจะทุกข์ใจมากกว่าดีใจนะ
ไม่เห็นต้องบอก แค่รักษาเนื้อรักตัวเองให้ดีดี อย่าให้เกินเลย ผลการเรียนอย่าตก เลิกเรียนกลางครั้น เงินอย่าผลาญ ก็คบกันไปได้ตลอด พ่อแม่เกิดก่อนรู้ทำมัยจะไม่รู้ว่าลูกมีแฟนไม่มี หึหึ ขออย่างเดียวอย่าใจแตก ซึมเศร้าเวลาอกหัก รักต้องเผื่อไม่ใช่ทุ่มลงไปหมด ตอนรักใหม่อะไรก็หวาน นานนๆไป พอมันเสื่อมสิ่งที่เสียไปก็เอาคืนมาไม่ได้ คุณค่าที่สำคัญของ ญ ก็รักนวลสงวนตัว ถ้ามอบให้เขาไปแล้วคุณค่ามันก็จะค่อยๆเสื่อมลง ...
ถ้าพ่อกับแม่เป็นคนที่เข้าใจง่าย ก็พาเข้าบ้านบอกว่าเป็นแฟนได้เลยค่ะ แต่ถ้าพ่อแม่เข้าใจยากหัวโบราณ...ถ้าจะพาเข้าบ้านให้บอกว่าเป็นเพื่อน. พามาบ่อยๆ แบบเนียนๆ เป็นเพื่อน เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับพ่อแม่ก่อน พอนานๆ ไปค่อยบอกว่าเปนเเฟน...แค่นี้ก็ผ่านละค่ะ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป สู้ๆ ค่า
ถ้าอยู่ในวัยเรียนไม่ต้องบอกหรอก พ่อ-แม่ ไม่ได้โง่
เพราะพฤติกรรมมันจะค่อยๆ แสดงออกมาเอง ว่ามีแฟน
เดี๋ยวเขาก็แย๊บๆ ถามเอง ค่อยบอกไปตอนนั้น
ตอบในฐานะแม่ที่มีลูกวัยรุ่นสองคน ม.6 กับ ม.4 ถ้าลูกสาวมีหนุ่มมาชอบ หรือลูกชายไปจีบสาว แม่ก็อยากให้บอกตรงๆ นะคะ เข้ามาเล่าให้ฟัง ถึงจะมองว่าลูกยังเด็กแต่ด้วยวัยของเค้า ก็คงจะมีสนใจเพศตรงข้ามบ้าง ดีกว่าเค้าแอบคบ แอบไปไหนมาไหนโดยที่เราไม่รู้
เกิดอะไรขึ้นบ้างข้างนอก เราไม่มีโอกาสรู้ได้เลย
อายุเพิ่ง 14 ปีคุยเป็นเพื่อนไปก่อนดีมั๊ยค่ะ ถ้าจะบอกแม่ก็ลองถามๆ ว่า ถ้าหนูมีหนุ่มมาชอบ แม่จะว่าอย่างไร
ถ้าเราเปิดประเด็นก่อน แล้วแม่ก็คงถามต่อเอง อาจจะได้คุยกันยาว ที่บ้านจะสนิทกับลูก ก็จะคุย จะถาม เค้าก็จะบอก เล่าให้ฟัง บางทีไม่ถามเค้าก็เล่าเอง คนเป็นพ่อแม่ทุกคนต่างก็เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อนน่าจะเข้าใจวัยของลูกนะ แต่อยากให้คบและคุยกันอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่มากกว่า
แค่คุณดูแลตัวเองได้ ไม่เหลวไหล ไม่ติดแฟนจนเสียการเรียน ไม่ออกนอกลู่นอกทาง รู้จักรักให้เป็น รู้จักระวังตัว ง่ายๆ คือเอาตัวรอดได้ ฉลาดที่จะรัก เชื่อว่าพ่อแม่ก็จะเปิดใจยอมรับค่ะ
อาจจะเลือกใช้คำว่า เป็นเพื่อนสนิท เป็นพี่ ไปก่อน(เหมือนดารา -.-") เพราะพ่อแม่บางคน sensitiveกับคำว่าแฟน แต่เค้าจะมีเซนส์เองค่ะ จากนั้นก็ค่อยเนียนๆพาไปทำความรู้จัก
บอกว่า กำลังคุย ๆ กับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ แต่ยังไม่ต้องบอกว่าเป็นแฟน
พอเวลาผ่านไปสักพักก็ค่อยบอกว่า ว่าคบกันแล้ว
เดี๋ยวพ่อแม่ก็จะสัมภาษณ์เราเองแหละ
cr.Pantip - เรียบเรียงโดย "GetSmile247"
ไม่มีความคิดเห็น: